Month: มีนาคม 2020

กระดิ่ง

ตั้งแต่เด็กมาแล้วที่แจ็คสันอยากเป็นหน่วยซีล ความฝันนั้นนำเขาไปสู่การฝึกฝนร่างกายและการทุ่มเทเป็นเวลาหลายปี ในที่สุดเขาก็ได้เข้าร่วมการทดสอบความแข็งแกร่งและความอดทนอันสุดแสนจะทรหด รวมถึงสิ่งที่ผู้รับการฝึกเรียกว่า “สัปดาห์นรก”

ร่างกายของแจ็คสันไม่สามารถอดทนต่อการฝึกทรหดนี้ได้ เขากัดฟันสั่นกระดิ่งเพื่อบอกให้ผู้บังคับบัญชาและผู้รับการฝึกคนอื่นรู้ว่าเขาตัดสินใจออกจากการฝึก สำหรับคนส่วนใหญ่การทำเช่นนี้อาจเป็นความล้มเหลว แม้ว่าจะผิดหวังมาก แต่ต่อมาแจ็คสันเห็นว่าการไม่ได้เป็นทหารกลับเป็นการเตรียมให้เขาได้ทำงานที่เขาจะทำไปตลอดชีวิต

อัครทูตเปโตรก็เคยพบกับความล้มเหลว ท่านประกาศอย่างองอาจว่าท่านจะภักดีต่อพระเยซูแม้จะต้องติดคุกหรือต้องตาย (ลก.22:33) แต่ต่อมาท่านร้องไห้อย่างขมขื่นหลังจากที่ปฏิเสธพระเยซู (ข้อ 60-62) แต่พระเจ้าทรงมีแผนการที่ยิ่งใหญ่กว่าความล้มเหลวของท่าน ซึ่งก่อนหน้าเหตุการณ์นั้น พระเยซูบอกท่านไว้แล้วว่า “ฝ่ายเราบอกท่านว่าท่านคือเปโตร และบนศิลานี้เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้ และพลังแห่งความตายจะมีชัยต่อคริสตจักรนั้นหามิได้” (มธ.16:18 และ ลก.22:31-32)

คุณกำลังต่อสู้กับความล้มเหลวที่ทำให้คุณรู้สึกด้อยค่าหรือไม่ดีพอที่จะก้าวต่อไปหรือไม่ อย่าปล่อยให้เสียงกระดิ่งของความล้มเหลวทำให้คุณพลาดจากพระประสงค์ที่ดีกว่าซึ่งพระเจ้าเตรียมไว้ให้คุณ

ได้พบกันอีก

เด็กชายตัวน้อยตื่นเต้นดีใจที่ได้แกะกล่องขนาดใหญ่จากพ่อที่ไปเป็นทหาร ซึ่งเขาคิดว่าไม่ได้อยู่บ้านฉลองวันเกิดของเขา ในกล่องมีกล่องของขวัญอีกใบหนึ่ง และในกล่องนั้นยังมีกล่องเล็กๆที่ภายในมีกระดาษเขียนไว้ว่า “น่าแปลกใจ” เด็กชายเงยหน้าขึ้นอย่างงุนงง พอดีกับที่พ่อเดินเข้ามา เด็กน้อยน้ำตาคลอโผเข้าสู่อ้อมกอดของพ่อร้องว่า “พ่อ ผมคิดถึงพ่อ” และ “ผมรักพ่อ”

การได้กลับมาพบกันแม้จะด้วยน้ำตาแต่ก็มีความสุขทำให้ฉันเห็นภาพที่พระธรรมวิวรณ์ 21 บรรยายถึงเวลาอันรุ่งโรจน์เมื่อลูกของพระเจ้าได้พบพระบิดาหน้าต่อหน้าในนครใหม่ ที่นั่น “พระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกๆหยดจากตาของเขา” เราจะไม่พบกับความเจ็บปวดหรือโศกเศร้าอีกเพราะเราจะได้อยู่กับพระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ เมื่อ “เสียงดัง” ในวิวรณ์ 21 ประกาศว่า “ดูเถิดพลับพลาของพระเจ้าอยู่กับมนุษย์แล้วพระองค์จะทรงสถิตกับเขา” (ข้อ 3-4)

ผู้ที่ติดตามพระเยซูต่างได้รับความรักและความสุขแล้วดังที่ 1 เปโตร 1:8 กล่าวไว้ว่า “พระองค์ผู้ที่ท่านทั้งหลายยังไม่ได้เห็นแต่ท่านยังรักพระองค์อยู่แม้ว่าขณะนี้ท่านไม่เห็นพระองค์ แต่ท่านยังเชื่อและชื่นชมด้วยความปีติยินดีเป็นล้นพ้นเหลือที่จะกล่าวได้” แต่ลองคิดดูว่า ความปีติยินดีของเราจะวิเศษและมากมายสักแค่ไหน เมื่อเราได้พบกับพระองค์ผู้ที่เรารักและรอคอย มาต้อนรับเราเข้าสู่อ้อมกอดของพระองค์!

ภาพความสิ้นหวัง

ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกา โดโรเธีย แลนจ์ช่างภาพผู้มีชื่อเสียงได้ถ่ายภาพของฟลอเรนซ์ โอเวน ทอมป์สัน และลูกๆของเธอเอาไว้ ภาพที่รู้จักในชื่อ แม่ผู้อพยพ เป็นภาพแม่ผู้สิ้นหวังที่ได้รับผลกระทบจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตไม่ได้ แลนจ์ถ่ายภาพนี้ในเมืองนิโปโม รัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะทำงานกับองค์การเพื่อความปลอดภัยในฟาร์ม เพื่อให้ผู้คนตระหนักถึงความขัดสนของบรรดาผู้ใช้แรงงานที่สิ้นหวัง

บทเพลงคร่ำครวญนำเสนอภาพความสิ้นหวังไว้เช่นกัน คือภาพของยูดาห์ในช่วงที่เยรูซาเล็มถูกทำลาย ก่อนที่กองทัพของเนบูคัดเนสซาร์จะเข้าทำลายเมือง ผู้คนทุกข์ทรมานจากความอดอยากเพราะเมืองถูกล้อม (2 พกษ.24:10-11) แม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นผลของการไม่เชื่อฟังพระเจ้านานหลายปี แต่ผู้เขียนบทเพลงคร่ำครวญได้ร้องทูลต่อพระเจ้าในนามของประชาชน (พคค.2:11-12)

ผู้เขียนสดุดี 107 ก็ได้อธิบายถึงเวลาที่สิ้นหวังในประวัติศาสตร์ของอิสราเอลด้วย (ช่วงที่เร่ร่อนในถิ่นทุรกันดาร ข้อ 4-5) ท่านย้ำถึงสิ่งที่ต้องทำเมื่อพบความยากลำบาก นั่นคือ “เขาร้องทูลพระเจ้า” (ข้อ 6) สิ่งอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นคือ “พระองค์ทรงช่วยกู้เขาจากความทุกข์ใจของเขา”

คุณกำลังท้อแท้อยู่หรือ อย่าเงียบอยู่ จงร้องทูลพระเจ้า พระองค์ทรงฟังและรอคอยที่จะฟื้นฟูความหวังของคุณ แม้พระเจ้าจะไม่ทรงนำเราออกจากความลำบากทุกครั้งไป แต่ทรงสัญญาว่าจะอยู่กับเราเสมอ

เชิร์บปี้

ทุกวันเป็นเวลาสิบสองปีที่เชิร์บปี้ซึ่งเป็นนกนางนวล จะบินมาหาคนที่เคยช่วยรักษาตอนมันขาหัก จอห์นล่อเชิร์บปี้ให้เข้ามาหาด้วยขนมสุนัขเพื่อจะได้รักษามันให้หาย ถึงแม้เชิร์บปี้จะอาศัยอยู่ที่หาดอินสโตว์ ในเมืองเดวอนประเทศอังกฤษ เฉพาะเดือนกันยายนถึงมีนาคมเท่านั้น แต่ทั้งสองก็หากันพบได้โดยง่าย แต่ละวันเชิร์บปี้จะบินตรงมาหาจอห์นเมื่อเขามาถึงหาดนั้น โดยที่มันไม่เข้าหามนุษย์คนอื่นเลย แบบนี้เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา

ความผูกพันของจอห์นและเชิร์บปี้ทำให้ผมคิดถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์กับนกอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อเอลียาห์ผู้เผยพระวจนะคนหนึ่งของพระเจ้าถูกส่งไปยังถิ่นทุรกันดารเพื่อ “ซ่อนตัวอยู่ที่ข้างลำธารเครีท” ในระหว่างการกันดารอาหาร พระเจ้าทรงบอกให้ท่านดื่มน้ำจากลำธาร แล้วจะทรงส่งกานำอาหารมาให้ท่าน (1 พกษ.17:3-4) แม้ในยามยากลำบาก เอลียาห์ก็ยังได้รับการดูแลเรื่องอาหารและน้ำ กาไม่น่าเป็นผู้ส่งอาหารได้ เพราะตามธรรมชาติแล้วอาหารที่มันกินไม่ใช่อาหารของมนุษย์ แต่มันก็ได้นำอาหารที่ดีมาส่งให้แก่เอลียาห์

อาจไม่น่าประหลาดใจที่มนุษย์ช่วยนก แต่เมื่อนกหาเลี้ยงมนุษย์ด้วย “ขนมปังและเนื้อมาให้ท่านในเวลาเช้า และนำขนมปังและเนื้อมาในเวลาเย็น” เรื่องนี้อธิบายเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากเป็นฤทธิ์อำนาจและการดูแลของพระเจ้า (ข้อ 6) เราไว้วางใจการทรงจัดเตรียมของพระเจ้าได้เช่นเดียวกับเอลียาห์

ช้าอย่างมีเหตุผล

ในสารคดี ชีวิตสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ของสถานีโทรทัศน์บีบีซี เดวิด แอตเทนเบอราผู้ดำเนินรายการปีนขึ้นต้นไม้ไปดูตัวสล็อธสามนิ้วที่น่าขัน เมื่อเจอหน้าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งเคลื่อนไหวช้าที่สุดในโลก เขาทักทายว่า “จ๊ะเอ๋” เมื่อไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ เขาจึงอธิบายว่าสล็อธสามนิ้วย่อมเคลื่อนไหวช้า เพราะมันกินใบไม้เป็นอาหารหลักซึ่งย่อยยากและมีสารอาหารน้อย

ในประวัติศาสตร์อิสราเอล เนหะมีย์กล่าวถึงตัวอย่างและอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นช้าๆ (9:9-21) ท่านบันทึกว่า พระเจ้าของเราเป็นตัวอย่างสูงสุดของการโกรธช้า ท่านเล่าว่าพระเจ้าดูแลชนชาติของพระองค์ ทรงสอนพระบัญญัติที่ให้ชีวิต ค้ำจุนพวกเขาเมื่อเดินทางออกจากอียิปต์ และจัดเตรียมแผ่นดินแห่งพระสัญญาให้ (ข้อ 9-15) ถึงแม้ชนชาติอิสราเอลจะดื้อรั้นอยู่บ่อยๆ (ข้อ 16) พระเจ้าไม่เคยเลิกรักพวกเขา องค์พระผู้สร้างทรง “มีพระทัยเมตตาและกรุณา ทรงพระพิโรธช้า และทรงอุดมด้วยความรักมั่นคง” (ข้อ 17) เพราะเหตุใดพระองค์จึงทรงยอมอดทนอดกลั้นต่อการบ่นต่อว่า ดื้อรั้น และการไม่ไว้วางใจของพวกเขาถึงสี่สิบปี (ข้อ 21) เป็นเพราะ “พระกรุณาอันอุดม” ของพระองค์ (ข้อ 19)

แล้วเราเป็นอย่างไร อารมณ์ร้อนเป็นสัญญาณของจิตใจที่เย็นชา แต่พระทัยอันประเสริฐของพระเจ้าทำให้เราอดทนในการดำเนินชีวิตอยู่และรักไปด้วยกันกับพระองค์

ปีติในพระวจนะ

ซึนโดกุ คือสิ่งที่ฉันต้องการเสมอ คำภาษาญี่ปุ่นนี้หมายถึงกองหนังสือข้างเตียงที่รอการอ่าน หนังสือทำให้เราได้เรียนรู้หรือหลีกหนีไปยังเวลาหรือสถานที่อื่นได้ และฉันเฝ้าคอยที่จะได้รับความสุขและความเข้าใจลึกซึ้งจากการอ่านหนังสือ กองหนังสือจึงอยู่ข้างเตียงฉันเสมอ

ความคิดที่ว่าการอ่านทำให้เราเพลิดเพลินและได้ประโยชน์นั้น เป็นจริงยิ่งกว่าเมื่อพูดถึงพระคริสตธรรมคัมภีร์ที่เป็นสุดยอดหนังสือ พระเจ้าให้โยชูวาใช้เวลากับพระวจนะเมื่อท่านรับการเจิมเป็นผู้นำคนใหม่ของอิสราเอล และรับหน้าที่นำพวกเขาเข้าสู่ดินแดนแห่งพระสัญญา (ยชว.1:8)

พระเจ้ารู้ว่ามีความยากลำบากรออยู่ จึงให้ความมั่นใจกับโยชูวาว่า “เราจะอยู่กับเจ้า” (ข้อ 5) ความช่วยเหลือส่วนหนึ่งจะมาเมื่อโยชูวาเชื่อฟังพระบัญชา พระเจ้าจึงตรัสว่า “อย่าให้หนังสือธรรมบัญญัตินี้ห่างเหินไปจากปากของเจ้า แต่เจ้าจงตรึกตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเจ้าจะได้ระวังที่จะกระทำตามข้อความที่เขียนไว้นั้นทุกประการ” (ข้อ 8) แม้โยชูวาจะมีหนังสือธรรมบัญญัติแล้ว แต่ท่านต้องหมั่นศึกษาเพื่อจะมีสติปัญญาและเข้าใจว่าพระเจ้าเป็นผู้ใดและทรงมีน้ำพระทัยอย่างไรเพื่อคนของพระองค์

วันนี้คุณต้องการคำชี้แนะ ความจริง หรือกำลังใจหรือไม่ ขณะที่เราใช้เวลาอ่าน เชื่อฟัง และรับการบำรุงเลี้ยงผ่านทางพระวจนะ เราสามารถเพลิดเพลินอย่างในพระวจนะตอนนั้นได้ด้วยเช่นกัน (2 ทธ.3:16)

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา